อาหารสำหรับคนพักผ่อนน้อย ทำไงให้ร่างกายสดชื่น

สำหรับวิถีชีวิตในปัจจุบันของคนเรานั้น ต้องเรียกได้ว่ามีสิ่งกระตุ้น หรือสิ่งเร้ามากมาย ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมเอามากๆ เช่น จากที่เคยนอนแต่หัวค่ำ หลังจากการทำงานในแต่ละวัน ก็เปลี่ยนเป็นนอนดึกมากขึ้น

องุ่น ผลไม้บำรุงเลือด และยาอายุวัฒนะ

องุ่น เป็นผลไม้ที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเจ้าองุ่นนี้ มีถิ่นกำเนิดในประเทศทางแถบทะเลเมดิเตอเรเนียน ดังนั้นมันจึงสามารถเจริญเติบโตได้อย่างดี ทั้งในเขตหนาว และเขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว

ประโยชน์เหลือล้นของ สตรอเบอรี่

สตรอเบอรี่ เป็นผลไม้ในวงศ์กุหลาบ มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม แต่เดิมนั้นถูกใช้เพื่อปลูกคลุมดิน ต่อมาได้มีการนำเอาผลสตรอเบอรี่มารับประทานเป็นอาหาร และแปรรูปเป็นของกินอื่นๆ อีกหลากหลายชนิด

ผัก ธัญพืช ต้านโรคหัวใจ

โรคหัวใจ เป็นภาวะของโรคที่พบเห็นได้บ่อยมากในปัจจุบัน เพราะลักษณะนิสัย การดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิมของคนเรา คือเน้นการทำงานบนโต๊ะ หรือในออฟฟิศมากขึ้น แต่กลับกินอาหารที่มีพลังงานสูงเข้าไปในแต่ละมื้อแทน

อาหารและเครื่องดื่ม สำหรับแก้อาการเครียด

ความเครียด เป็นภาวะทางอารมณ์อย่างหนึ่ง ที่มักเกิดขึ้นกับร่างกายของคนเรา ในยามที่เกิดความทุกข์ ความไม่สมหวัง ซึ่งนอกจากความเครียด จะส่งผลเสียต่อจิตใจ เช่น ทำให้ไม่ร่าเริง ไม่มีความสุขแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติของร่างกาย

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

10 ทริคใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ให้สวยดูดี BASIC LOOK สุดง่ายที่ใครก็แต่งตามได้ไม่ยาก!



10 ทริคใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ให้สวยดูดี BASIC LOOK สุดง่ายที่ใครก็แต่งตามได้ไม่ยาก!
สุดยอด BASIC LOOK ที่ไม่ว่าจะเป็นเหล่าดาราฮอลลีวู้ด เซเลบแนวหน้าทั้งนอกและในประเทศไทยหรือกระทั่งคุณผู้หญิงธรรมดาๆอย่างเรา ก็มักเลือกหยิบลุคนี้ขึ้นมาสวมใส่ในวันสบายๆกันทั้งนั้น มีใครบ้างล่ะจ่ะที่จะไม่เคยนำ เสื้อยืด และ กางเกงยีนส์ มาจับคู่ใส่ด้วยกันเลย ด้วยความเรียบง่ายและไม่ต้องคิดอะไรเยอะอีกทั้งยังได้ลุคที่ดูสวยเท่แบบไม่ตั้งใจ ทำให้การมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อยืดกับ กางเกงยีนส์ กลายเป็นอีกหนึ่งลุคที่สาวๆชื่นชอบเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว
     เราจะเห็นได้จากการหลายๆเทรนด์แฟชั่นที่เข้ามาเยือนในบ้านเรา เทรนด์ต่างๆมักมีคีย์ไอเท็มชิ้นเบสิกอย่างเจ้าเสื้อยืดตัวเรียบและกางเกงยีนส์สุดเซอร์อยู่ด้วยเสมอไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นสุดเรียบง่ายอย่างสไตล์ มินิมอล (คลิกอ่าน – 7 คีย์ไอเท็มสไตล์มินิมอล)หรือจะเป็นเจ้าสไตล์แต่งเรียบแต่จัดเต็มอย่าง นอร์มคอร์ (คลิกอ่าน – แต่งตัวสไตล์นอร์มคอร์แบบมืออาชีพ!) ก็ล้วนประกอบไปด้วยทั้งสองไอเท็มนี้เป็นหลักเช่นกัน แต่การจะแต่งลุคธรรมดาๆให้ดูสวยโดดนั้นมันต้องมีเคล็ดลับกันหน่อย วันนี้เราจึงได้นำ 10 ทริคดีๆในการใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ให้สวยดูดีแบบฟรีๆมาฝากสาวๆกันจ้า บอกเลยว่าทั้งแต่งตามง่ายแถมยังเป็นไอเดียดีๆให้สาวๆแต่งลุคนี้ให้ออกมาดูสนุกและสวยกลมกลืนยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ว่าแล้วจะรอช้ากันอยู่ทำไม…ไปดูกันเลย!
1.สอดชายเสื้อในกางเกงเล็กน้อย
     เชื่อว่าสาวๆคงเบื่อกับสไตล์ใส่เสื้อทับในกางเกงสุดแสนจะจำเจกันแล้ว เราลองมาเปลี่ยนมาใช้ทริคง่ายๆทริคนี้กันดีกว่า  บอกเลยว่าดูดีแบบมีกิมมิคสุดๆไปเลย!

2.พับขากางเกง หรือ ตัดขากางเกงให้พอดีกับข้อเท้า
     อีกหนึ่งทริคดีๆที่จะทำให้คุณดูไม่เป็นสาวเนิร์ดผู้มีขากางเกงยีนส์ลงไปกองที่พื้น ที่สำคัญยังทำให้ไม่ดูเทอะทะและสร้างความรำคาญใจในการเดินให้กับสาวๆอีกด้วย

3.เลือกรองเท้าและกระเป๋าให้แมทช์กัน
     ด้วยความเรียบง่ายของเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ดังนั้นสาวๆควรหาดีเทลเพิ่มเก๋ๆเติมลงไปชุดของคุณให้ดูดีมากยิ่งขึ้น เราจึงแนะนำให้เลือกรองเท้าและกระเป๋าให้มีสไตล์หรือโทนสีไปในทิศทางเดียวกัน บอกเลยว่าคูลสุดๆ!

4.เพิ่มเลเยอร์ด้วยเสื้อแจ็คเก็ต
     นอกจากจะได้ทั้งลุคสวยและเท่แล้ว ยังทำให้การแต่งตัวของคุณดูมีลูกเล่นและสนุกขึ้นอีกเป็นกองเลยล่ะจ่ะ

5.ปลุกความสวยเท่ด้วยไอเท็มยีนส์
     นอกจากเจ้ากางเกงยีนส์แล้ว สาวๆยังสามารถนำไอเท็มยีนส์ชนิดอื่นมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้สนุกมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย ยิ่งเป็นแจ็คเก็ตยีนส์ตัวเซอร์แล้วด้วยล่ะก็…คุณจะกลายเป็นสาวเท่ได้ภายในพริบตาเลยทีเดียว! (คลิกอ่าน – รวมไอเดียใส่แจ็กเก็ตยีนส์ให้สวยแซ่บซ่า ใส่เท่หน้าหนาวก็ได้ ใส่สวยหน้าร้อนก็ดี!)

6. ลองเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ดูบ้าง
     แค่เพียงสาวๆเลือกหยิบเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์มาใส่ซักวัน รับรองว่ามมันจะเป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆที่จะช่วยเพิ่มดีเทลให้กับการแต่งตัวของคุณ แถมยังใส่สบายอีกด้วยนะจ๊ะ!

7.เพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ด้วยเสื้อยืดครอปตัวเก๋
     ใครว่า…ใส่ยีนส์แล้วจำเป็นต้องเซอร์หรือเท่เท่านั้น บอกเลยว่าใส่ยีนส์ก็สามารถสวยฮอตได้ง่ายๆ เพียงแค่สาวๆจับเสื้อยืดครอปน่ารักๆซักตัวมาแมทช์กับกางเกงยีนส์ตัวโปรด แค่นี้ก็ได้ลุคสวยเซ็กซี่แบบชิลล์ๆแล้วล่ะจ้า

8.เลือกทรงกางเกงยีนส์ให้เข้ากับตัวเอง
     ข้อนี้สาวๆควรพึงระวังเลยล่ะจ่ะ เพราะกางเกงยีนส์บางทรงก็ไม่เหมาะกับหุ่นสาวๆบางคน ควรเลือกและลองให้ดีก่อนซื้อ ไม่งั้นจะมานั่งเสียดายทีหลังไม่ได้นะจ๊ะ

9.สีเดียวทั้งชุดแบบโททัลลุคไปเลย!
     ลองเปลี่ยนจากเจ้ากางเกงยีนส์ตัวสีน้ำเงินออริจินอลมาเป็นสีขาวหรือสีดำดูบ้าง จากนั้นนำมาจับคู่กับเสื้อยืดสีเดียวกัน รับรองว่าสาวๆจะได้ลุคที่แปลกใหม่แต่สวยอย่างไม่น่าเชื่อแน่นอนจ้า

10.เพิ่มช่องว่างให้ดูผอมกับการมัดเอวหลวมๆ
     ทริคง่ายๆด้วยการเพิ่มช่องว่างระหว่างเสื้อผ้าที่จะทำให้สาวๆดูไม่อึดอัดและเทอะทะ แค่สาวๆมัดชายเสื้อยืดหลวมๆ คุณก็จะได้ลุคเซ็กซี่ปนน่ารักแบบง่ายๆแล้วล่ะจ้า 



วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

เคล็ดลับรักษารอยสิวจากธรรมชาติ


สิวขึ้นหน้าทีไรใช่ว่าพอหลังจากมันหาย... มันจะไม่ทิ้งรอยสิวเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นสาวๆ ส่วนใหญ่มักซื้อครีมรักษารอยสิวมาใช้เป็นประจำ แต่สาวๆ รู้มั้ยคะว่านอกจากครีมรักษารอยสิวแล้ว ยังมีวัตถุดิบจากธรรมชาติอีกหลายชนิดที่สามารถหยิบมาใช้ลดเลือนรอยสิวให้จางลงได้ มาดูกันดีกว่านะคะว่ามีอะไรบ้าง

ทีทรีออยล์
นอกจากจะช่วยรักษาสิวได้แล้ว ทีทรีออยล์ยังสามารถนำมานวดตรงรอยสิวได้ด้วยนะคะ โดยทำเป็นประจำ รับรองคุณจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแน่นอน

น้ำผึ้ง
ความหอมหวานจากน้ำผึ้งมาพร้อมคุณสมบัติที่จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยในเรื่องของการรักษาสิวและลดเลือนรอยสิวได้ผลอีกด้วย เพียงนำน้ำผึ้งมานวดเบาๆ ลงบนผิวที่ต้องการรักษารอยสิว ทิ้งไว้สัก 20 – 30 นาทีแล้วล้างออก เท่านี้ก็จะช่วยให้รอยสิวจางลงได้แล้วหรือจะนำมาพอกหน้าเป็นประจำทุกวันก็ยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นในตัวได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย

เจลว่านหางจระเข้
อีกหนึ่งคุณสมบัติจากสมุนไพรไทยที่ไม่ควรมองข้าม เพียงนำเนื้อเจลว่านหางจระเข้มาทาแล้วนวดเบาๆ ตรงรอยสิว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก เท่านี้ก็จะช่วยเคลียร์รอยสิวได้แล้ว

น้ำมะนาว
เนื่องจากน้ำมะนาวมีคุณสมบัติเป็นกรดสูงจึงสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังได้ ตอนเป็นสิวจะนำมาแต้มสิวให้ยุบลงเร็วก็ได้เช่นกัน สำหรับวิธีลดเลือนรอยสิวนั้นก็ทำได้ง่ายๆ เพียงบีบน้ำมะนาวแล้วผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย จากนั้นนำมาทาบนรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงหรือทาทิ้งไว้ก่อนนอนตลอดคืนก็ได้ รับรองว่าน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกทำให้รอยสิวจางลงเร็วได้อย่างเร็วขึ้นแน่นอนค่ะ

น้ำมันมะพร้าว
ใช้น้ำมันมะพร้าวมาทาบนรอยสิวจากนั้นนวดวนเบาๆ แล้วปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีจึงล้างหน้าตามปกติ วิตามินจากน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเยียวยารอยสิว ทั้งยังบำรุงผิวให้ได้รับการกระตุ้นเพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ใหม่ อีกทั้งวิตามินอีที่มีปริมาณสูงยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นขึ้นได้ด้วย

มันฝรั่ง
มันฝรั่งที่สาวๆ นิยมนำมามาส์กตาเวลาบวมๆ ก็มีส่วนช่วยลดเลือนรอยสิวได้เหมือนกันนะ เพียงฝานมันฝรั่งออกเป็นแผ่นๆ จากนั้นนำมาทาบนรอยสิวปล่อยไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำก็จะช่วยให้รอยสิวจางลงได้

วัตถุดิบจากธรรมชาติเหล่านี้มาพร้อมสารอาหารมากมาย มีส่วนช่วยทั้งบำรุงผิวและฟื้นฟูเซลล์ที่สึกหรอ ดังนั้น นำมาทาทั้งรักษารอยสิวทีก็ต้องใช้เวลาใจเย็นๆ หน่อยนะคะ แต่รับรองค่ะว่ามันจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและปลอดภัยแบบไม่ต้องเสียตังค์สักบาท

ถั่วแดง: สุดยอดธัญญาหารเพื่อการลดน้ำหนัก

ถั่วแดง (Red Beans) เป็นพืชในตระกูลถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะประกอบไปด้วยโปรตีนคุณภาพ  คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี บี 1 บี 2 บี 6 ไนอาซีน โฟเลต แคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ เนื่องจากมีส่วนช่วยบำรุงโลหิต ช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบประสาทของทารก รวมทั้งป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น การมีน้ำหนักตัวน้อย หรือมีไอคิวต่ำ เป็นต้น
ถั่วแดง ยังอุดมไปด้วยธาตุอาหารสำคัญอย่างฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โซเดียม และสังกะสี ที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย รวมทั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ ในตำราแพทย์แผนจีนระบุว่า ถั่วแดงมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ส่วนในตำราแพทย์แผนไทยกล่าวว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านช่วยขับปัสสาวะ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ลมพิษ ดีซ่าน บรรเทาอาการปวดข้อและอาการบวมน้ำ ช่วยกำจัดหนอง แก้อาหารเป็นพิษ รักษาอาการลำไส้อักเสบหรือขับถ่ายเป็นเลือดได้
การรับประทานถั่วแดงเป็นประจำจะช่วยในเรื่องของการบำรุงสุขภาพ และถือเป็นสุดยอดธัญญาหารเพื่อการลดน้ำหนัก เพราะสามารถนำมารับประทานทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ ซึ่งจะให้ไขมันอิ่มตัวในปริมาณต่ำ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย และให้เส้นใยอาหารในปริมาณสูง เมื่อพองตัวจะดูดซับน้ำได้ดี จึงช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอล รวมทั้งทำให้กระบวนการย่อยเกิดขึ้นช้าลงจึงรู้สึกอิ่มนาน
ถั่วแดงยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองปริแตก ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง เนื่องจากประกอบไปด้วยวิตามินหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ ทั้งยังเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานได้ดีเพราะมีสรรพคุณช่วยรักษาและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล นอกจากนี้ ในถั่วแดงที่มีลักษณะคล้ายไต หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ถั่วแดงหลวง” ยังประกอบไปด้วยสารลิกแนน สารชาโปนิน และสารยับยั้งโปรติเอส ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันและลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ จึงเป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว
เมื่อทราบอย่างนี้ คงทำให้บรรดาผู้ที่ไม่เคยใส่ใจในเรื่องของสุขภาพหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น เพราะถั่วแดงเป็นธัญพืชที่นำมาประกอบอาหารและแปรรูปเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นซุปถั่วแดง ขนมปังไส้ถั่วแดง ถั่วแดงต้มน้ำตาล หรือถั่วแดงต้มสุกโรยในอาหารจานสลัด สำหรับเด็กๆ อาจรับประทานเป็นของหวานอย่างถั่วแดงน้ำแข็งใส หรือไอศกรีมถั่วแดง ก็สามารถเลือกอร่อยได้ตามใจชอบ เพราะให้ประโยชน์ไม่แพ้กัน
จะเห็นได้ว่า หากต้องการคุณค่าทางโภชนาการและคุณประโยชน์ในการดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์ แข็งแรง และมีอายุที่ยืนยาวขึ้นแล้ว ก็ควรเลือกบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อย โดยเลือกรับประทานให้หลากหลายชนิด และจะต้องคำนึงถึงกรรมวิธีในการปรุงเพื่อป้องกันไม่ให้เสียคุณค่าทางอาหารมากจนเกินไป เน้นที่การรับทานอาหารจากธรรมชาติให้มากที่สุด โดยเฉพาะผักใบเขียว ผลไม้ และอาหารที่มีเส้นใยสูง เพราะจะช่วยทำให้มีผิวพรรณดี ช่วยชะลอวัย และยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายในการต้านทานต่อเชื้อโรคจากภายนอกได้ด้วย

จมูกข้าวสาลี: สุดยอดธัญญาหารสำหรับคนรักสุขภาพ


จมูกข้าว คือส่วนที่ต้นข้าวจะเจริญเติบโตไปเป็นต้นอ่อน จะอยู่บริเวณปลายสุดของเมล็ดข้าว และพบในข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสีทุกชนิด รวมไปถึงข้าวสาลีด้วย
จมูกข้าวเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเมล็ด เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารอันทรงคุณค่า โดยในจมูกข้าวสาลีนั้น ถือเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพ ทั้งยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ และกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันภาวะเสื่อมของสมองซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ ช่วยทำให้มีผิวพรรณที่สดใส ช่วยทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานเป็นปกติ รวมทั้งช่วยบำบัดอาการผิดปกติของหญิงชายวัยเจริญพันธุ์ และสตรีวัยหมดประจำเดือนได้ด้วย
ในจมูกข้าวสาลียังประกอบไปด้วยวิตามินบี 1 บี 6 และไนอาซินที่ช่วยเผาผลาญสารอาหารเพื่อให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย มีสรรพคุณช่วยบำรุงเส้นประสาท ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีกรดโฟลิกสูง จึงเป็นแหล่งอาหารสำคัญสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะช่วยป้องกันโรคโลหิตจางในมารดาและช่วยป้องกันความพิการทางระบบประสาทในทารกได้
ที่สำคัญคือ ในจมูกข้าวสาลียังอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอวัย ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคต้อกระจก รวมทั้งช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อมต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ในจมูกข้าวสาลียังมีเส้นใยอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย จึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูก และป้องกันโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ มีแร่ซิลิเนียมที่เหมาะกับผู้หญิงวัยกลางคน เพราะจะช่วยป้องกันอาการที่มักเกิดกับคนในวัยหมดประจำเดือน มีแร่สังกะสีที่ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต และมะเร็งในต่อมลูกหมาก ดังนั้น คุณผู้ชายที่รับประทานจมูกข้าวสาลีเป็นประจำจึงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ค่อนข้างน้อย
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่อัดแน่นอยู่ในจมูกข้าวสาลี จึงไม่ผิดเลยที่ใครๆ จะยกให้เป็นสุดยอดธัญญาหารสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะหากนำมารับประทานเป็นประจำก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนตลอดเวลา ร่างกายจึงมีภูมิต้านทานสูง จึงเป็นผลดีต่อการป้องกันโรค ช่วยลดความรุนแรงของโรค และเยียวยาโรคบางอย่างได้ดี
สำหรับผู้ที่เห็นคุณประโยชน์ และอยากจะหาซื้อมาติดบ้านไว้รับประทานเป็นประจำ ก็ควรเลือกที่เป็นของใหม่ บรรจุในถุงสุญญากาศ และไม่มีกลิ่นหืน เวลาซื้อก็ไม่ควรซื้อในปริมาณมาก โดยภายหลังจากเปิดถุงแล้วควรรับประทานให้หมดภายใน 1 เดือนหรือก่อนวันหมดอายุ นอกจากนี้ ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันไม่ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวในจมูกข้าวสาลีไปทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนก่อให้เกิดกลิ่นหืน และเสียคุณค่าทางอาหารไป

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle) บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ รักษาสิว


ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle)
คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้ คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผม ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีเครื่องสำอางหลายชนิดที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะบอลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ นอกจากนี้ยังสามารถลดความแห้งกร้านและลดความมันของผิวหน้าได้ 


สรรพคุณ บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ รักษาสิว 
ส่วนผสม ว่านหางจระเข้ 


วิธีทำ เลือกใบจากต้นว่านหางจระเข้ที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยเลือกใบล่างสุดซึ่งจะอวบโต มีวุ้นมาก นำมาแช่น้ำเพื่อล้างยางเหลืองๆ ออกให้หมด(ยาง เหลืองมีฤทธิ์ระคายเคืองผิว ทำให้แสบร้อน เป็นผื่นแดง) จากนั้นปอกเปลือกออก แล้วเอาวุ้นที่ได้ล้างน้ำให้สะอาดอีกทีหนึ่ง นำวุ้นไปปั่นหรือใช้มือขยำ ก็จะได้เจลว่าน หางจระเข้ การใช้ว่านหางจระเข้สดได้ผลดีกว่าผลิตภัณฑ์แปรรูป ซึ่งจะมีปัญหาการคงตัวเมื่อถูกความร้อน

วิธีใช้ ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วใช้เจลพอกทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตาและรอบปาก ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก สูตรนี้เหมาะ สำหรับคนผิวมันสำหรับคนผิวแห้ง ไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้เดี่ยว ๆ ควรเติมน้ำมันมะกอกกับไข่แดง ตีให้เข้ากัน แล้วจึงพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
หมายเหตุ ไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้กับสิวหัวหนอง เพราะฟิล์มจากว่านจะทำให้สิวหายช้า

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

น้ำเต้าหู้ กินแล้วสวย ผิวใส อ่อนกว่าวัย

น้ำเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง เครื่องดื่มคู่คนไทยมาตั้งแต่อดีต ณ ปัจจุบันนี้มองไปทางไหนก็จะก็จะเจอน้ำเต้าหู้อยู่ทุกที่ ทุกเวลาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะตลาด รถเ็นข้างทาง เซเว่น และยิ่งไปกว่านั้นเดี๋ยวนี้มีแบบผงชงดื่มเองที่บ้าน สะดวกสะบายกันเลยทีเดียว
และเดี๋ยวนี้เครื่องดื่มเพื่อสุภาพนั้นกำลังอิน ผู็คนหันมาสนใจการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น เจ้าน้ำเต้าหู้นี่และจิกได้กลับมารีเมค ฮิตติดกระแสกับเขาไปด้วย หากท่านผู้อ่านอยากรู้ว่าด้วยเหตุใด วันนี้เรามีคำตอบ
น้ำเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง มีอะไรดี
เป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน AB, B1, B2, B6, B12 ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E และในเมล็ดถั่วเหลืองยังมี “เลซิทิน” อันเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมันและลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย ให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่ดีกว่า คือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่านมช่วยลดโคเลสเตอรอลและลดไขมันในร่างกาย สำหรับคนที่ไม่ดื่มนมเพราะเหตุใดก็ ตาม จะได้รับคำแนะนำให้ดื่มนมถั่วเหลือง
ทำไมผู้ใหญ่ชอบพูดว่า กินน้ำเต้าหู้แล้วผิวดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
นอกจากน้ำเต้าหู้ จะมีประโยชน์และสารอาหารที่ดีต่อร่างกายแล้ว ข้อดีที่สำคัญคือ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เพราะ ไขมันในนมถั่วเหลือง เป็นไขมันไม่อิ่มตัวมีมากถึง 63% ไขมันอิ่มตัว 15 % ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเดี่ยวอีก 24 % และยังมี linoleic acid กรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย นอกเหนือจากนั้นสิ่งที่ทำให้สาวๆทั้งหลายหันมาดื่มน้ำเต้าหู้กัน คือในนมถั่วเหลืองยังมีสารอาหารอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี ที่มีในปริมาณที่สูง วิตามินอี มีส่วนสำคัญที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลเนื้อเยื่อร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง และยังช่วยชะลอความแก่อีกด้วย  รู้แบบนี้ใครยังไม่ดื่มรีบเลยนะคะ ถ้ายังอยากเต่งตึง อ่อนกว่าวัยสดใสไปนานๆ นอกจากความสวยใสนั้น น้ำเต้าหู้ยัง ช่วยป้องการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม ริดสีดวง ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากถั่วเหลืองมีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ได้ และป้องกันอาการวัยทอง มากมายหลากหลายคุณประโยชน์จริงๆ อ๊ะๆแต่อะไรก็ตามล้วนมีข้อจำกัดนะจ๊ะ 
ข้อเสียของน้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้สำหรับผู้ที่ใช้ดื่มแทนนมวัวนั้น ปริมาณแคลเซียมอาจไม่เพียงพอ จึงต้องรับประทาน ผักใบเขียว กับปลาเล็กที่รับประทานทั้งตัวได้ และธัญพืชอื่นๆร่วมด้วยเพื่อจะได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น ข้อเสียอีกอย่างคือ ในน้ำเต้าหู้มีไฟโตเอสโตรเจนหากดื่มเยอะเกิน อาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ เพราะไฟโตเอสโตรเจนก็ทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ดังนั้นคนที่เป็นมะเร็งเต้านม การรับประทานไฟโตเอสโตรเจนเป็นควรระวัง จึงควรดื่มแบบพอดี
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วอยากผิวดี เต่งตึง สดใสอ่อยกว่าวัย สุขภาพดี มาดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวัน เช้า-ก่อนนอน กันดีกว่าค่ะ ยิ่งใครทำน้ำเต้าหู้เองที่บ้านยิ่งดีเลยนะคะ เพราะที่ขายตามท้องตลาดนั้นใส่น้ำตาลเยอะ และไม่เข้มข้น ถ้าเราทำเองยิ่งปลอดภัยและได้รับประโยชน์ได้คุณค่าอย่างเต็มที่ค่ะ

อาหารเพื่อสุขภาพคลายเครียด

1 บลูเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่นั้นเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีช่วยคลายความเครียดลงได้ นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ช่วยป้องกันเซลล์ถูกทำลาย และป้องกันร่างกายจากผลกระทบของความเครียดอีกด้วย
    2 ซีเรียล อาหารเช้าซีเรียลเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี กรดโฟลิก วิตามินซี และไฟเบอร์ ที่ช่วยจัดการกับความเครียดให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น
    3 เนื้อวัว ในเนื้อวัวมีธาตุเหล็ก วิตามินบี และสังกะสี ช่วยลดความกังวลใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อและประสาทคลายตัว แต่เนื้อวัวก็มีไขมันอิ่มตัวที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจและโรคอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานส่วนที่มีไขมันน้อย เช่น เนื้อสันนอก เนื้อสันใน สะโพกนอก
    4 แคนตาลูป  แคนตาลูปเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีมาก มีสรรพคุณช่วยต่อต้านความเครียด บำรุงสายตา บำรุงสมอง แถมมีส่วนช่วยในเรื่องของการเกิดสมาธิ
    5 นม นมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เกี่ยวกับความเครียด และยังประกอบด้วยทริปโตเฟนที่ช่วยทำให้จิตใจสงบ ดื่มนมคู่กับซีเรียล หรือคุกกี้ช็อกโกแลตชิพช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอนช่วยให้หลับสบาย
    6 ซูชิ นอกจากประโยชน์จากปลาแล้ว สาหร่ายในโรลมากิยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านความเครียด อุดมด้วยแมกนีเซียม กรดแพนโทเธนิค และวิตามินบี 2 โดยกรดแพนโทเธนิคจะช่วยเปลี่ยนคอเลสเตอรอลเป็นฮอร์โมนสำหรับต่อต้านความเครียด ป้องกันอาการอ่อนเพลีย สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค
    7 ธัญพืช  เลือกรับประทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว ขนมปังโฮลวีทและขนมปังขาว นอกจากจะทำให้ไม่อ้วนแล้ว ยังเต็มไปด้วยวิตามินบี เกลือแร่ เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม โปรตีนและไฟเบอร์ ซึ่งช่วยทำให้ผ่อนคลาย ร่างกายและจิตใจสงบลง
    8 บล็อคโคลี  ในบล็อคโคลีมีทั้งวิตามินบี 12 กรดโฟลิก ที่ช่วยส่งเสริมการผลิตเซโรโทนิน สารเคมีที่ทำให้อารมณ์ดีซึ่งร่างกายผลิตขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ ช่วยบรรเทาความเครียด วิตกกังวล ความกลัว และความเศร้าได้
9 ปลา มีปลาหลายชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามินบีที่สำคัญในการต่อต้านความเครียด ทั้งวิตามินบี  6 และวิตามินบี 12 โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ยังช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขอีกด้วย และเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายขาดบี 12 จะทำให้รู้สึกซึมเศร้าหดหู่ขึ้นมาได้ ในมื้ออาหารแนะนำให้รับประทานปลาทูน่า ปลาแซลมอน หรือปลาแมคเคอเรลจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
    10 อัลมอนด์  อัลมอนด์ช่วยคลายเครียดได้ดี เนื่องจากอุดมด้วยวิตามินบีและแมกนีเซียมช่วยสร้างเซโรโทนิน ทำให้อารมณ์ดี รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบ มีวิตามินอีช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เกี่ยวเนื่องกับความเครียด และโรคหัวใจ และยังมีสังกะสีช่วยในการบรรเทาความเครียดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อัลมอนด์ให้แคลอรีสูง อาจทำให้อ้วนได้ จึงควรบริโภคแต่น้อย
(ขอบคุณข้อมูลจาก : http://th.jobsdb.com/th-th/articles/10-อาหารสุขภาพคลายเครียด)

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

สูตรมาร์คหน้าด้วยธรรมชาติ เพื่อผิวหน้าขาวใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอย สวยสดใส


ด้วยยุคแห่งมลพิษ และความเหนื่อยล้าจากสายลมแสงแดด หรือความเครียดจากการทำงานหนัก นอนดึก ออกงานบ่อย พักผ่อนน้อย ล้วนส่งผลกระทบต่อผิวหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณผู้อ่านไม่ควรมองข้าม  วันนี้จึงมีสูตรจากธรรมชาติและข้อดีของสมุนไพรหรือผักผลไม้สดๆที่นำมามาร์คนั้นแน่นอน เราจะได้รับคุณค่าอย่างเต็มที่ เหมือนเรากินผักผลไม้สดๆนั่นเองค่ะ สูตรมาร์คหน้าง่ายๆ
1. มาร์ค ว่านหางจระเข้ 
ตัดว่านหางจระเข้มาสัก 1 กาบไม่ต้องใหญ่มาก ปอกเปลือกออกให้หมดเอาแต่ส่วนของเนื้อใสมาใช้ นำเนื้อใสหรือวุ้นที่ได้มาปั่นเนียนละเอียดแล้วทาให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปากเอาไว้ทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 20 นาทีจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น มีข้อควรระวังคือหากเป้นผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่ายไม่ควรใช้สูตรนี้ เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้และควรระวังยางสีเหลืองๆ ของว่าน สูตรนี้นอกจากจะสามารถลอกฝ้าได้แล้ว ยังมีผลในการช่วยบรรเทาสิวอักเสบ และลบเลือนจุดด่างดำบนใบหน้าได้ด้วย
2. น้ำมะนาว + นมผงของเด็ก
นำน้ำมะนาว + นมผงของเด็กและน้ำสะอาดอย่างละ 1 ช้อนชามาผสมรวมกันให้ดี จากนั้นนำมาพอกที่ใบหน้าประมาณ 20 นาที พยายามอย่าขยับเขยื้อนใบหน้าในช่วงนี้นักเพราะอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายเมื่อครบตามกำหนดเวลาแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ แล้วซับหน้าเบาๆ จะรู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าของคุณดูกระจ่างใสขึ้นเนื่องจากการทำงานของกรดในมะนาวและมีความนุ่มชุ่มชื้นจากนมผงอยู่ด้วย
3. มะเขือเทศ 
ใครอยากหน้าสวยใส แถมมีเลือดฝาดแดงระเรื่อเหมือนผิวเด็ก ต้องลองสูตรนี้เลย !วิธีทำ นำมะเขือเทศ 1 ลูกมาบดหรือปั่นพอแหลกหรือจะฝานเป็นชิ้นหนา ๆ แล้วนำมานวดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ วิตามินซีและกรดผลไม้ในมะเขือเทศ จะช่วยลอกผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกได้
4. น้ำผึ้ง+แตงกวา 
สูตรนี้สำหรับผู้มีปัญหารูขุมขนกว้าง วิธีทำ ใช้น้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา ผสมกับแตงกวา 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วจึงนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็นจัดๆ หรือน้ำแช่น้ำแข็ง เพียงเท่านี้หน้าของคุณก็จะเรียบเนียนขึ้นได้
5. โยเกิร์ต 
นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย (อาจแช่ตู้เย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นในที่ขณะพอกหน้า) ทาทิ้งไว้ให้ทั่วใบหน้าแล้วใช้ปลายนิ้วนวดเบา ๆ ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส แลคติค และวิตามินบีที่อยู่ในโยเกิร์ตจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนรูขุมขนและบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น เนียนสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ถือเป็นเคล็ดลับความขาวใสที่สาว ๆ สามารถทำใช้ได้ทุกวัน
6. มะขามเปียก น้ำผึ้ง และมะนาว
ใช้เนื้อมะขามเปียก 1 กำ แยกเอากากและเม็ดออก ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และ มะนาว 1 ช้อนชา ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำเอามาพอกหน้าไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ 2 ครั้ง จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วทำให้ผิวหน้าขาวขึ้นได้
7. กล้วยหอม
 ผลไม้สีเหลืองสดนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวหน้าสวยนุ่ม ชุ่มชื้น และสามารถแก้ปัญหาผิวได้หลายอย่างเลยทีเดียว เพียงนำกล้วยหอมสุกมาบดให้เป็นเนื้อละเอียดแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เท่านี้ก็เตรียมอวดผิวสวย ๆ ให้คนอื่นอิจฉาได้เลย
8. ดินสอพอง
นำดินสอพองมาผสมน้ำเปล่าให้เป็นเนื้อครีมข้น แล้วทาทิ้งไว้ให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 15-20 นาที ดินสอพองจะดูดซับความมันบนใบหน้า ดีท็อกซ์สารตกค้างที่เกาะติดอยู่บนผิว ทำให้ผิวหน้าดูสวยเด้ง แถมยังช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกด้วยนะ
9. น้ำส้มคั้น+นมสด
โดยนำส้มมาคั้นให้ได้น้ำประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นใส่นมสดผสมลงไป 1 ช้อนโต๊ะ คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี แล้วจึงนำสำลีก้อนมาชุบและถูให้ถั่วไปหน้าเบาๆ เว้นบริเวณรอบดวงตาและปากทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 20 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ
10.  สูตรแตงกวา+ไข่ขาว
เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าที่มีความมัน และปัญหาเรื่องสิวมากๆ นำแตงกวา 1 ลูก ไข่ขาว 1 ฟอง น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
11. ขมิ้นและนมสด
ขมิ้นอยู่ในอันดับต้น ๆของ ตำราสมุนไพรที่ใช้บำรุงผิวพรรณของคนในสมัยก่อน เพราะขมิ้นจะช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวลผ่องใส สะอาดเกลี้ยงเกลา เพียงนำผงขมิ้น 1 ถ้วยผสมกับนมสด 3/4 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกลงบนผิวขณะอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน รับรองผิวขาวเนียนนุ่มสุด ๆ

สูตร13 นานาน้ำตะไคร้ คลายร้อน ดวงตาสดใส


ตะไคร้พืชล้มลุกที่พบประจำในครัวเรือนไทย นานาด้วยประโยชน์มากมาย นอกจากนำมาประกอบอาหารหลายรูปแบบแลัว ยังมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแสนอร่อยได้ด้วยค่ะ
ส่วนผสม 
1. ตะไคร้           1    ต้น
2. น้ำเชื่อม       1    ช้อนคาว
3. น้ำเปล่า       14    ช้อนคาว
วิธีทำ
1. ล้างตะไคร้ให้สะอาด หั่นเป็นท่อนเล็กๆ ทุบให้แตก
2. ต้มกับน้ำให้เดือน จนน้ำเป็นสีเขียว
3. ยกกรองเอาตะไคร้ออก ปรับรสชาติตามใจชอบ
คุณค่าทางอาหาร
1. มี Vitamin A บำรุงสายตา
2. มี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
คุณค่าทางยา
1. แก้ทองอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด
2. ขับปัสสาวะ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ
3. ขับเหงื่อ ขับสารพิษตกค้างในร่างกาย
4. ลดความดันโลหิต
5. ขับประจำเดือน
6. บำรุงสมอง ช่วงให้สมาธิดี
7. แก้เมา แก้อาเจียณ
8. ทากันยุง กันแมลง
9. เป็นยาช่วยให้นอนหลับ

มะขาม (tamarind) ประโยชน์น่ารู้ กับความงามที่คุณต้องลอง


มะขาม
 มีชื่อทางวิทญศาสตร์ว่า Tamarindus indica  L มะขามเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีกิ่งก้านสาขาอยู่จำนานมาก ซึ้งในปรเทศไทยของเรานิยมปลูกมะขามกันมากในจังหวัด
จังหวัดเพชรบูรณ์ ‘ที่เขาเรียกกันว่า เพรชรบูรณ์เมืองมะขามหวานนั้นเอง ซึ้งมะขามมีประโยชน์แทบจะทุกส่วนไม่ว่าจะเป็น ราก ลำต้น ใบ ผล เมล็ด เปลือก โดยส่วนใหญ่จะนำมาบริโภค กันและ ทำประโยชน์จากเนื้อไม้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เนื่องจากมะขามเป็นไม้ยืนต้น มะขามในไทยมีสองชนิดคือมะขามเปรี้ยวและมะขามหวาน โดยมะขามหวานมีหลายพันธุ์เช่น พันธุ์น้ำผึ้ง อินทผลัม หมื่นจง สีทอง โดยเรามักจะนิยมปริโภคผลมะขามกัน นอกจากเราจะรับประทานสดสดแล้วยังนำมาทำเป็นส่วนประกอบของเครื่องปรุงอาหารอีกด้วยไม่ใช่แค่ผลเท่านั้นที่เรามักบริโภคกัน ใบอ่อนของมะขามก็นิยมนำมาปรุงรสอาหาร เช่น แกงยอดมะขามอ่อนนอกจากบริโภคก็ยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคอีกด้วย

มะขามกับการรักษาโรค

ส่วนที่เรานิยมใช้กันได้แก่ ผล เปลือก ราก ใบ และเมล็ด
โดยผลหรือเนื้อในฝักของมะขามจะช่วยในเรื่องของการแก้อาการท้องผูก เป็นยาระบายอ่อนๆ ยาถ่าย ขับเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ และใช้เป็นยาสวนล้างท้องช่วยขับสารพิษในร่างกาย  ใบมะขามมีทั้งใบสดและใบแก่ โดยใช้เป็นยาถ่าย ยาระบายท้อง ขับลมในลำไส้ แก้อาการไอเป็นหวัด แก้โรคบิด  ขับเสมหะ ใช่น้ำคั่นหยอดตารักษาเยื่อตาอักเสบตามัว  ช่วยฟอกโลหิต ขับเหงื่อออก และในโบราณยังมีความเชื่อเอามาอาบหลังคลอดช่วยให้สะอาดและฟื้นฟูสุขภาพของคุณแม่ที่อยู่เดือนเพื่อที่จะได้หายเร็วขึ้น เมล็ดใช้ แก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย ถ่ายพยาธิไส้เดือนตัวกลมในลำไส้ พยาธิเส้นด้าย ขับเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ เป็นยาสวนล้างท้องในส่วนของ ดอกสดใช้เป็น ยาแก้โรคความดันโลหิต ฝักมะขามดิบใช้ฟอกเลือด  ในส่วนรากจะใช้ สะมาแผลได้ดีและช่วยฆ่าเชื้อ เริม ฝีในมดลูกได้ จะเห็นได้ว่าแค่มะขาม1ฝักก็ช่วยในการรักษาโรคได้มากมายเพราะเนื่องจากในมะขามมีสารทางเคมีโดยใน ผลจะมีสารจำพวก Alcohols, Aldehydes; Citric acid Ketones, Vitamin B1, Essential Oil, Enzyme. /ใบมะขามมีสารAlcohols, phenolic esters and ethers. Sambubiose, Carboxylic acid, Oxalic acid/ส่วนเมล็ดมีPhosphatidylcholine, Proteins Glutelin, Albumin, Prolamine, Lectin และสารอารหารหลักจำพวก วิตามินเอและวิตามินซีสูง และยังมี โปรตีน คาร์โบไฮเดรต  แคลเซียม และฟอสฟอรัส มะขามเปียกมีสารกรดอินทรีย์ เช่น กรดซกรด กรดทาทาริค กรดมาลิค มีสารพวกกัม (gum) และเพคติน (pectin) ซึ้งร่างกายของเรามีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างระบบการทำงานของร่างกาย

นอกจากนี้แล้วยังนิยมนำมะขามมาใช้เป็นผลิตภันฑ์เสริมความงาม


ผลิตภันฑ์ที่นิยมทำคือ สบู่  ผงขัดผิว โดยในมะขามจะมีกรดผลไม้ และสารจำพวกวิตามินที่สูงจึงส่งผลทำให้ผิวพรรณเปล่งปลัง ในสมัยก่อนชาวบ้านจะจะเอามะขาเปียกขัดผิว และเอาเปลือกมะขามไปตากแห้งจากนั้นเอามาบดและนำมาขัดผิงสามารถควบคุว ซึ่งปัจจุบันก็ได้แปรรูปมะขามจากแนวความคิดภูมิปัญญามาประยุกต์ใช้ โดยสบู่มะขามถั่วไปจะช่วยในเรื่องชำระล้างร่างกาย ปรับสภาพผิวให้เนียนและใสด้วยสารวิตามินcเป็นหลัก ส่วนผงขัดจะช่วยในด้านผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วให้มีเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา และยังสามรถควบคุมความมันบนใบหน้าซึ้งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวได้อีกด้วย ซึ้งผู้ที่อยากมีผิวสายแบบธรรมชาติสามารถหาผลิตภันฑ์หรือจะทำเองก็ได้ เพื่อความงามของสาวๆขอ ฝากมะขามไว้ในอ้อมอกอ้อมใจครับ
มะขามจัดได้ว่าเป็นผลไม้ทางเศรษฐกิจที่มีการนำมาแปรรูปต่างๆสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรมากมายและนอกจากนั้น ยังเหมาะแก่ท่านที่มีโรครุมเล้าโดย เฉพาะปัญหาระบบขับถ่าย ลำไส้ เพราะมะขามมีสรรพคุณโดยตรงในเรื่องของการรักษาโรคอย่างตรงจุด ท้ายนี้สุขภาพดีหาได้ด้วยการดูแลตนเอง ยังไงก็ขอฝากมะขามผลไม้ฝักผลไม้เศรษฐกิจของไทย ไว้สำหรับท่านที่รักสุขภาพทุกคนด้วนะครับ